CD Projekt Red ผู้พัฒนาเกม Cyberpunk 2077 ได้ออกมาอธิบายถึงระบบ multiplayer ในเกมของพวกเขาว่าควรจะออกมาในรูปแบบเกมแยก ‘Standalone Product’ มากกว่าที่จะเป็นแบบ ‘Multiplayer Mode’ ให้เลือกเล่นภายในตัวเกมหลัก อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจเชื่ออย่างผิด ๆ ว่าจะมีโหมดที่ชื่อว่า “Grand Theft Auto” ไว้สำหรับเล่นแบบ Multiplayer ให้แฟนเกมได้เลือกเล่น
Cyberpunk 2077 หนึ่งในเกมที่มีคนติดตามและรอเล่นมากที่สุดในเวลานี้ก็ว่าได้ ดดยที่ตัวเกมมีกำหนดที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้ หลังจากที่เลื่อนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งจากปัญหาในการพัฒนาที่มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการระบาดของไวรัส Covid-19 โดยในครั้งนี้ทีมพัฒนาแจ้งว่าจะไม่มีการเลื่อนอีกแล้ว แม้ว่าจะเคยถูกคาดการณ์ว่าอาจะมีการเลื่อนไปอีกครั้งเนื่องจากการแปลภาษาของเกมที่จะรองรับ Subtitle มากมายเป็นประวัติการอย่างที่ไม่เคยมีเกมใดในโลกทำมาก่อน และหนึ่งในนั้นจะมีภาษาไทยรวอยู่ด้วย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมองว่าอาจจะแปลไม่ทันและอาจจะมีการเลื่อนตัวเกมไปเปิดให้บริการในช่วงปี 2021 ซึ่งแน่นอนว่าตราบใดที่เกมยังไม่เปิดให้บริการจริงก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นไปดังที่คาดการณ์
และอย่างที่เข้าใจกันว่าเกม Cyberpunk 2077 นั้นสามารถเล่นได้ทั้งในแบบผู้เล่นเดี่ยว (Single-Player) และแบบผู้เล่นหลายคน (Multi-Player) ทำให้เกมถูกมองว่าการเล่นแบบ multiplayer ของเกมนั้น น่าจะออกมาในรูปแบบที่คล้ายกันกับเกม Dying Light ที่เป็นเกมแนว FPS เหมือนกัน และทุกคนก็จะได้เล่นเป็นตัวละคนเอกเช่นเดียวกันกับคนอื่น ๆ ซึ่งก็ถือว่าน่าจะตอบโจทย์ระบบ multiplayer ของเกมได้ว่าจะออกมาเป็นแบบใด เนื่องจากตัวเกมทั้ง 2 เกมมีความแตกต่างกันอยู่หลายส่วน ทั้งความเป็น open-world และความเป็น RPG ของเกม


เนื่องด้วยใกล้วันที่จะเปิดให้บริการเต็มที ทางทีมงาน CD Projekt Red ก็ได้ออกมาล้างความเข้าใจผิดของระบบ multiplayer ในเกมของพวกเขาที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้ โดยที่ข่าวดังกล่าวส่วนหนึ่งนั้นมาจากการประชุมทางโทรศัพท์ของทาง CD Projekt Red กับทาง Seeking Alpha ตลาดการเงินชื่อดังเพื่อทำการหารายได้ทางการตลาดในหลาย ๆ ด้านของเกมดังกล่าวนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่ง Adam Kiciński หนึ่งใน CEO ของ CDPR ก็ถูกตั้งคำถามถึง multiplayer mode ภายในเกม โดยที่ Kiciński มีปัญหาเกี่ยวกับคำว่า “mode” ทันที เพราะตามที่เขาพูดนั้น multiplayer ในเกมนี้คือ “การผลิตเฉพาะแยกต่างหากจากการผลิตขนาดใหญ่” เขาไปไกลถึงขั้นระบุว่า “เกือบจะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าจะมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับแนวคิดของ Cyberpunk แบบเล่นคนเดียวก็ตาม” ทั้งนี้ Kiciński ไม่ต้องการแบ่งปันความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้เล่นหลายคนนี้ แต่เขาก็สนับสนุนให้มีการพูดคุยกันในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 เพื่อรับการอัปเดตอีกครั้ง ทั้งยังปิดท้ายด้วยการให้แฟน ๆ มั่นใจว่า
“ผมเชื่อว่า Cyberpunk Multiplayer จะเป็นไปได้”


จากบทสนทนาของ CD Projekt Red CEO กับทาง Seeking Alpha นั้นเห็นได้ชัดว่าทาง Kiciński นั้น ต้องการให้ระบบ multiplayer ของเกม Cyberpunk 2077 ออกมาเป็นแบบ standalone แยกออกมาจากตัวเกมหลัก ซึ่งก็จะมีความคล้ายกับรูปแบบของเกม Resident Evil 3 กับระบบ multiplayer แยกออกมาเป็น standalone ใน Resident Evil Resistance โดยที่สำหรับเกม Cyberpunk 2077 มีแนวโน้วสูงว่าจะออกมาเป็นแบบ DLC Multiplayer แยกออกมาให้ผู้เล่นต้องซื้อเพื่อที่จะเล่นระบบดังกล่าว
Cyberpunk 2077 ถือเป็นเกมที่ได้รับความคาดหวังสูงมาก จะเรียกว่าสูงที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ ไม่ว่ารูปแบบของเกม ระบบต่าง ๆ ภายในเกม, เรื่องราวสตอรี่ต่าง ๆ, ธีมเกมแบบโลกอนาคตในแบบ Cyber-World และอื่น ๆ, รวมไปถึงกานำเอาดาราดังระดับโลกอย่าง Keanu Reeves มาเป็น NPC คนสพคัญภายในเกม เหล่านี้ล้วนเป็นที่มาของกระแสการรอคอยของเกมดังกล่าวให้พุ่งสูงขึ้นมาโยตลอดจนใกล้จะเปิดให้บริการในช่วงต้นเดือนธันว่าคมนี้ก็ยังไม่ลดลง ก็ต้องมารอดูกันว่าระบบ multiplayer ที่หักมุมมองและความคาดการณ์ของหลายฝ่ายตามที่ CDPR CEO นั้นจะจริงเท็จแค่ไหน ต้องรอถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 หรืออาจจะเร็วกว่านั้น หรือจะเป็น DLC แบบชำระเงินอย่างที่คาดการณ์ใหม่หรือไม่
ที่มา: screenrant.com